เมนูนำทาง
แผนลับ 20 กรกฎาคม ผลสืบเนื่องอีกหลายสัปดาห์ถัดมา ด้วยความโกรธเกรี้ยวของฮิตเลอร์ ตำรวจเกสตาโพของฮิมเลอร์ล้อมจับแทบทุกคนที่มีส่วนกับแผนลับดังกล่าวแม้เพียงเล็กน้อย การค้นพบจดหมายและบันทึกประจำวันในบ้านและสำนักงานของผู้ที่ถูกจับกุมนั้นเปิดเผยแผนการตั้งแต่ ค.ศ. 1938, 1939 และ 1943 ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตามมาอีกหลายรอบ รวมทั้งการจับกุมฟรันซ์ ฮัลแดร์ที่เสียชีวิตในค่ายกักกัน ภายใต้กฎหมายซิพเพนฮัฟท์ (ความรับผิดทางสายเลือด) ใหม่ ญาติทุกคนของผู้ก่อการคนสำคัญถูกจับกุมด้วยเช่นกัน
มีผู้ถูกจับกุมกว่า 7,000 คน[30] และราว 4,980 คนถูกประหารชีวิต[31] ใช่ว่าทุกคนที่ถูกจับกุมหรือประหารชีวิตเชื่อมโยงกับแผนลับนี้ เพราะเกสตาโพฉวยโอกาสดังกล่าวสะสางกับอีกหลายคนที่ต้องสงสัยว่าเข้าข้างฝ่ายต่อต้าน วิทยุอังกฤษยังออกชื่อผู้ต้องสงสัยที่เป็นไปได้ที่ไม่เกี่ยวข้องแต่ภายหลังก็ถูกจับกุม[32]
ผู้ก่อการพยายามหลบหนีหรือปฏิเสธความผิดเมื่อถูกจับกุมน้อยมาก ผู้รอดชีวิตจากการสอบปากคำจะถูกนำตัวมาพิจารณาคดีพอเป็นพิธีต่อหน้าศาลประชาชน (โฟล์กสเกริชท์ชอฟ) ศาลเถื่อนซึ่งตัดสินเข้าข้างฝ่ายอัยการเสมอ ประธานศาล โรลันด์ ไฟรซเลอร์ เป็นพวกคลั่งนาซี มีผู้เห็นว่าตะโกนอย่างเดือดดาลและหยาบคายต่อผู้ถูกกล่าวหาในการพิจารณา ซึ่งมีการถ่ายภาพยนตร์ด้วยเหตุผลด้านการโฆษณาชวนเชื่อ[33] นายทหารที่เกี่ยวข้องกับแผนลับถูก "ไต่สวน" ต่อหน้าศาลเกียรติยศทหาร ศาลทหารที่ตัดสินคดีด้วยการพิจารณาหลักฐานที่เกสตาโพตกแต่งมาให้ก่อนขับผู้ถูกกล่าวหาออกจากกองทัพว่าทำให้เสื่อมเสีย แล้วส่งตัวให้ศาลประชาชน
การพิจารณาครั้งแรกมีขึ้นเมื่อวันที่ 7 และ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1944 ฮิตเลอร์สั่งให้ผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงถูก "แขวนคอเหมือนวัวควาย"[33] หลายคนชิงฆ่าตัวตายก่อนถึงการพิจารณาหรือการประหารชีวิตของตน รวมทั้งคลูเกอ ที่ถูกกล่าวหาว่ารู้เห็นกับแผนลับล่วงหน้าและไม่ได้เปิดเผยต่อฮิตเลอร์ ชตึลพ์นาเกิลพยายามฆ่าตัวตายเช่นกัน แต่รอดและถูกแขวนคอ
ขณะถูกทรมานนั้น เขาโพล่งชื่อร็อมเมิลออกมา อีกไม่กี่วันถัดมา ที่ปรึกษาส่วนตัวของชตึลพ์นาเกิล เซซาร์ ฟ็อน ฮอฟัคแคร์ ยอมรับหลังจากถูกทรมานอย่างน่าสยดสยองว่าร็อมเมิลเป็นสมาชิกปฏิบัติการของแผนคบคิดดังกล่าวด้วย ร็อมเมิลมีส่วนเกี่ยวข้องขนาดไหนนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่นักประวัติศาสตร์จำนวนมากสรุปว่า อย่างน้อยเขาก็ทราบแผนคบคิดดังกล่าวแม้ไม่ได้พัวพันโดยตรงก็ตาม อย่างไรก็ตาม ฮิตเลอร์ทราบว่าจะเป็นกรณีอื้อฉาวใหญ่หลวงแก่สาธารณะ หากร็อมเมิลถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ ติดดังนี้แล้ว เขาจึงให้ทางเลือกร็อมเมิลว่าจะฆ่าตัวตายด้วยไซยาไนต์เอง หรือเข้าสู่การบวนการไต่สวนพิจารณาคดีอย่างเปิดเผยโดยศาลประชาชนของไฟรสแลร์ หากร็อมเมิลเลือกรับการไต่สวนพิจารณาคดี ครอบครัวของเขาจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงแม้ก่อนการพิพากษาลงโทษที่แน่นอน และพวกเขาจะถูกประหารชีวิตไปพร้อมกับเสนาธิการของเขาด้วย ร็อมเมิลทราบดีว่าการยอมถูกพิจารณาตัดสินคดีในศาลประชาชนมีค่าเท่ากับโทษประหาร เขาจึงทำอัตวินิบาตกรรมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1944 เขาถูกฝังอย่างสมเกียรติทหาร บทบาทของเขาในเรื่องนี้เปิดเผยหลังสงครามยุติ[14]
เทร็สโคก็ทำอัตวินิบาตกรรมหนึ่งวันหลังจากรัฐประหารที่ล้มเหลวโดยการใช้ระเบิดมือในดินแดนไม่มีเจ้าของระหว่างแนวรบรัสเซียกับเยอรมัน ก่อนตาย เทร็สโคว่าแก่ฟาเบียน ฟ็อน ชลาเบรนดอร์ฟดังนี้
|
และความล้มเหลวในการรายงานแผนลับดังกล่าวอย่างชัดเจน เขาถูกจับกุมในวันที่ 21 กรกฎาคม ภายหลังฟร็อมถูกศาลประชาชนพิพากาษาลงโทษและตัดสินประหารชีวิต แม้เขาเกี่ยวข้องกับการคบคิด แต่คำพิพากษาทางการของเขาระบุข้อกล่าวหาว่าเขาบกพร่องในหน้าที่ เขาถูกประหารชีวิตในบรันเดินบวร์คอันแดร์ฮาเฟิล ฮิตเลอร์เปลี่ยนโทษประหารชีวิตของเขาจากแขวนคอไปเป็นชุดยิง "ที่มีเกียรติกว่า" ด้วยตนเอง เออร์วิน พลังค์ บุตรชายนักฟิสิกส์ชื่อดัง มักซ์ พลังค์ ถูกประหารชีวิตจากการมีส่วนร่วมด้วย[35][36]
รายงานของคัลเทนบรุนเนอร์ต่ออดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1944 ว่าด้วยเบื้องหลังของแผนคบคิดดังกล่าว ระบุว่า สมเด็จพระสันตปาปาเป็นผู้ก่อการในทางใดทางหนึ่งด้วย โดยเจาะจงชื่อยูจีนิโอ ปาเซลลี สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ว่ามีส่วนในแผนลับด้วย[37] หลักฐานชี้ว่า ผู้ก่อการ พันเอก เวสเซิล ฟ็อน ไฟรทาค-ลอริงโฮเฟน, พันเอก เออร์วิน ฟ็อน ลาโฮอูเซิน และ พลเรือเอก วิลเฮล์ม คานาริสเกี่ยวข้องกับการขัดขวางแผนลักพาตัวหรือลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระสันตปาปาปิอุสที่ 12 ของฮิตเลอร์ใน ค.ศ. 1943 เมื่อคานาริสรายงานข้อมูลแผนนี้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่อต้านข่าวกรองของอิตาลี พลเอกเซซาเร อาแมะ ซึ่งได้ส่งต่อข้อมูลดังกล่าว[38][39]
หลังวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1945 เมื่อไฟรส์แลร์ถูกฆ่าตายในการโจมตีทางอากาศของสหรัฐครั้งหนึ่ง ไม่มีการพิจารณาอย่างเป็นทางการเพิ่มอีก แต่จวบจนเดือนเมษายน ปีเดียวกัน ซึ่งอยู่ในช่วงปลายสงคราม มีการค้นพบบันทึกประจำวันของคานาริส และอีกหลายคนถูกซัดทอด การประหารชีวิตดำเนินต่อไปจนกระทั่งวันสุดท้ายของสงคราม
การพิจารณาและการประหารชีวิตตามรายงานนั้นได้ถูกถ่ายภาพยนตร์ไว้และถูกตรวจสอบโดยฮิตเลอร์และคณะผู้ติดตามของเขา ภาพยนตร์เหล่านี้ภายหลังถูกตัดต่อโดยเกิบเบิลส์เป็นภาพยนตร์ความยาว 30 นาที และถูกฉายให้แก่นักเรียนนายร้อยที่โรงเรียนนายร้อยลิคแตร์เฟลเดอ แต่เชื่อกันว่าผู้ชมเดินออกจากการฉายด้วยอาการขยะแขยง[40]
ฮิตเลอร์ถือเอาว่าการรอดชีวิตของเขานั้นเป็น "ช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ในประวัติศาสตร์" และมอบหมายให้มีการจัดทำเครื่องอิสรยาภรณ์ ผลก็คือ เหรียญผู้บาดเจ็บ 20 กรกฎาคม 1944 ซึ่งฮิตเลอร์มอบให้แก่ผู้ที่อยู่กับเขาในห้องประชุมในเวลานั้น เหรียญนี้ถูกจัดทำขึ้น 100 เหรียญ[41] และเชื่อกันว่ามีการมอบให้จำนวน 47 เหรียญ พร้อมด้วยเอกสารรางวัลอันหรูหราที่มอบให้แก่ผู้ได้รับเหรียญซึ่งลงนามส่วนตัวโดยฮิตเลอร์ ทำให้มันเป็นเครื่องอิสริยาภรณ์ที่มีการมอบน้อยที่สุดของนาซีเยอรมนี[42]
จากบทบาทในการยุติรัฐประหาร พันตรีเรแมร์ได้รับการเลื่อนยศเป็นพันเอกและเมื่อสงครามยุติ เขามียศเป็นพลตรี หลังสงคราม เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสังคมนิยมไรช์และเป็นพวกนีโอนาซีคนสำคัญและสนับสนุนแนวคิดคัดค้านการล้างชาติโดยนาซีกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1997[43]
ฟิลิพพ์ ฟ็อน เบอเซลาแกร์ นายทหารเยอรมันผู้จัดหาระเบิดพลาสติกที่ใช้ในเหตุดังกล่าวนั้น สามารถหลบหนีการถูกตรวจพบและรอดชีวิตจากสงคราม เขาเป็นผู้ร่วมขบวนการผู้รอดชีวิตคนที่สองรองจากสุดท้าย และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 อายุได้ 90 ปี[44]
ผลของรัฐประหาร สมาชิกทุกคนของกองทัพบกถูกบังคับให้สาบานความจงรักภักดีต่อฮิตเลอร์อีกครั้ง และเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 การแสดงความเคารพแบบทหารถูกแทนที่ด้วยการแสดงความเคารพต่อฮิตเลอร์ทั้งกองทัพซึ่งทำโดยยืดแขนออกและเปล่งคำพูดว่า "ไฮล์ ฮิตเลอร์"[45] แม้ว่าเหตุการณ์จะสงบลง แต่เวลาต่อมาในปี 1945 นาซีเยอรมันได้พ่ายแพ้สงครามและฮิตเลอร์ได้กระทำอัตวินิบาตกรรมในฟือเรอร์บุงเคอร์ เวลาต่อมาในอีกหลายปีให้หลังได้การรำลึกต่อกลุ่มบุคคลผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผนลับ 20 กรกฎาคม ซึ่งได้แสดงให้เห็นต่อคนเยอรมันชนรุ่นหลังและชาวโลกว่า ชาวเยอรมันทุกคนไม่ได้เป็นอย่างฮิตเลอร์และพรรคนาซี และกลุ่มบุคคลเหล่านี้ตายเพื่อเยอรมนี
เมนูนำทาง
แผนลับ 20 กรกฎาคม ผลสืบเนื่องใกล้เคียง
แผนลับแหกคุกนรก แผนลับ 20 กรกฎาคม แผนลับดับ "ศัตรู" แผนลับแหกคุกนรก ฤดูกาลที่ 1แหล่งที่มา
WikiPedia: แผนลับ 20 กรกฎาคม http://www.atypon-link.com/OLD/doi/pdf/10.1524/VfZ... http://www.cbcpnews.com/?q=node/9249 http://books.google.com/?id=xoTWkzhf2uUC&pg=PA361&... http://histclo.com/essay/war/swc/force/wehr/res/wr... http://www.imdb.com/name/nm0102778/ http://www.imdb.com/title/tt0043461/ http://www.imdb.com/title/tt0047790/ http://www.imdb.com/title/tt0062038/ http://www.imdb.com/title/tt0100376/ http://www.imdb.com/title/tt0102778/